วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2553

ตายไม่เป็น

ในทางสู้ของคนกล้า
เพื่อเรียกหาประชาธิปไตย
ละเลงเลือดละหลั่งไหล
ไม่คลอนคลายทรนง
ใจแกร่งเกินกำหนด
ฆ่าก็มิหมดกดก็มิลง
ทางเดินที่เที่ยงตรง
ตั้งแต่ต้นจนบั้นปลาย
รากหญ้าทุกทุกผู้
จะต่อสู้ไม่ยอมตาย
เลือดแดงมิเหือดหาย
อย่าได้หมายมารังแก
น้ำน้อยก็จะสู้
จะยอมอยู่ไม่ยอมแพ้
จะดื้อด้านไม่ผันแปร
จะทรยศยมบาล
ให้ตายจะไม่ตาย
มิได้หมายคิดต่อต้าน
ขอเพียงไล่พวกมาร
จนเสร็จการค่อยคุยกัน

อยู่เย็น พรหมมุนี

แสงสว่างปลายอุโมงค์



แผ่นดินแยกแตกแล้วทุกทุกทิศ
ทุกชีวิตมุ่งหมายทำลายล้าง
ทมึนทมิฬมืดมิดปิดหนทาง 

แสงสว่างปลายอุโมงค์อยู่หนใด 
ภาพสยองของของสงครามความยุคเข็ญ 
กำลังเป็นประกายแผ่เกินแก้ไข 
ต่างความคิดผิดความเห็นเป็นบรรลัย
ฆ่ากันได้ไม่รีรอฟันต่อฟัน 

นักปราชญ์ราษฎร์บัณฑิตก็ผิดแผก 
กลับแบ่งแยกยั่วยุลุโมหันต์
เป็นไม้หลักปักเลนเข่นฆ่ากั
น 

ไทยทั้งนั้นฆ่าไทยจัญไรเมือ
จะหาเหตุเลศไหนมาบรรจบ
ให้พานพบพูดจากันรู้เรื่อง 

เลิกอาฆาตมาดร้ายคลายแค้นเคือง 
มาสร้างความรุ่งเรืองให้เมืองไทย 
แผ่นดินแยกแตกแล้วทุกทุกทิศ
หยุดวิกฤตก่อนยับเยินเกินแก
้ไข 

รวมเป็นพลังสมัครสมานประสานใจ 
สร้างอภ้ยสร้างสันตินิจนิรันดร์ 
อยู่เย็น พรหมมุนี

วันพุธที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2553

กวีไพร่



แค่คนดีหนึ่งคนแดงล้นรัก
จงประจักษ์ความจริงที่ยิ่งใหญ่
แล้วในหลวงของปวงประชาไทย
คุณความดีท่านยิ่งใหญ่แดงไม่ลืม
มีแต่รักรักรักและภ้กดี
เกินกว่าที่จำนรรจายิ่งกว่าปลื้ม
ความรักแดงยิ่งใหญ่โลกไม่ลืม
น้บแสนปลื้มนับล้านป้องพ่อของเรา


ห่ากระสุนหรือจะสู้ กระแสรู้คุณธรรม
มวลชนเมื่อชี้นำ จะแจ่มแจ้งในความจริง
ประชาชาติในวันนี้ เขากล้าที่จะท้วงติง
ทรราษฎร์ให้หยุดนิ่ง ก็ย่อมยิ่งจะวิ่งเดิน
หยุดเถิดควรจะหยุด ก่อนไทยทรุดชำรุดเกิน
ก่อนหมดแผ่นดินเดิน ก่อนเขาเชิญลงเวที


อวตารสีแดงทอแสงจ้า 
นคราบาทวิถีมีแต่แดง 
สู้กองทัพเถื่อนถ่อยคอยกลั่นแกล้ง 
ทั้งเสแสร้งปกปิดบิดเบือนคำ 
เอาไม้ไผ่ไปสู้กับอาก้า
ไม่รู้ว่าบ้าหรือดีนี่น่าขำ 
โพสต์ส่งความถามข่าวเช้ายันค่ำ 
ขอไม้อัดไปทำโล่ห์กันปืน 
ยิ้มมิได้ร่ำไห้ก็มิออก 
คนบ้านนอกบ้านนามาเป็นหมื่น 
ราชประสงค์ไม่มีที่จะยืน 
เพราะกล้ำกลืนที่ถูกกดจนหมดกลัว

บ้านเมืองไร้ขื่อแป  ใครจะแก้ปัญหาได้
มีแต่ลุกเป็นไฟ แล้วเป็นใครที่ตรอมตรม
บ้านนี้ ณ วันนี้ มันสุดที่จะโสมม
อ้าปากพ่นอาจม ยั่วอารมณ์ทุกนาที
ฝ่ายหนึ่งนั้นทำได้ แต่อีกฝ่ายโทษมากมี
ยุให้อีกฝ่ายตี ไม่ต้องมีกติกา

กลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้

ฆ่าคนคือฆาตกร กลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้
พวกมันก่อการร้าย ไหงกลับกลายก่อการดี 
โป้ปดแลมดเท็จ  รวมเบ็ดเสร็จคนอัปรีย์
สื่อสารมารทีวี ขมันขมีร่วมด้วยกัน
ใส่ร้ายและป้ายสี อย่างไม่มีจรรยาบรรณ
ยุใหญ่ให้ฆ่าฟัน ไทยทั้งนั้นต้องวายวาง
ต่อไปภายภาคหน้า วันเวลาจะสะสาง
ชั่วโฉดทุกทุกอย่าง ไม่มีทางหลีกพ้นกรรม
ดูอย่างผู้พันตึ๋ง เคยเป็นหนึ่งในผู้นำ
สุดท้ายต้องรับกรรม ถูกจองจำตายในกรง

รากหญ้ายอมตาย

ฆ่าได้ก็ให้ฆ่า จะเกิดมาให้ฆ่าใหม่
รากหญ้าคนต่ำใต้ ขืนอยู่ไปก็ไร้ค่า
ตายสิบเกิดเป็นล้าน จะเบิกบานเต็มพารา
คนไพร่ไม่นำพา แค่ถูกฆ่าเท่านั้นเอง
ศักดิ์ศรีไม่มีแล้ว คนนอกแถวใครจะเกรง
ค่ำเช้าเขาข่มเหง โก่งตะเบ็งเอ็งคนเลว
ชั่วช้าเกิดมาจน ค่าของคนต่ำติดเหว
ตะโกนก้องร้องเฮ้วเฮ้ว ว่าไอ้เลวเพียงเพราะจน
สิทธิเท่าเทียมกัน แต่สิทธินั้นไม่เห็นหน
แค่คืนความเป็นคน คืนตัวตนที่ฉันมี
เหยียบย่ำมานานวัน สุดสะบั้นแล้ววันนี้
เลิกแล้วเลิกถอยหนี พอกันทีหญ้ายอมตาย 

สวรรค์ อยู่ข้างเรา

สิ่งศักดิ์สิทธิ ใดใด ในโลกหล้า
ธ จงมา รักษา อย่าให้โศก

คนจริงที่ ดีแท้ แต่อับโชค
คนที่โลก ลืมรัก ลืมฝากใจ

เขานั้นหรือ คือผู้กล้า ในนาคร
อดตาหลับ ขับตานอน ตื่นก่อนไก่

อยู่หวาดหวาด ขาดทั้ง กำลังใจ
ไม่มีใคร รักเรา หรือไรกัน

เราไม่มี อำนาจ และอาวุธ
ที่จะหยุด ยั้งใคร ให้เหหัน
 

แต่ไม่ยอม ก้มห้ว กลัวโทษทัณฑ์
เพราะเชื่อมั่น ว่าสวรรค์ อยู่ข้างเรา

วันอังคารที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2553

คนึง ฉัตรเท


อนิจจา ลาลับ มิกลับแล้ว
สิ้นเสียงแว่ว เสียงแผ่ว แล้วเสียงหาย
ฆาตกร นอนสุข สนุกสบาย
ทิ้งหญิงชาย ผู้กล้า โศกาดูร
โอ้คนึง ฉัตรเท ทุ่มเทรัก
เพื่อปกปัก ความเป็นคน จนชีพสูญ
มิเห็นใคร ไหนมา เอื้ออากูร
มีใครปูน ยศให้ คงไม่มี




"ทหารใจร้าย" เสียงนี้ห... [HQ]

0:48
สะพานมัฆวานคือจุดเริ่มต้นที่ฝ่ายทหารได้ลั่นกระสุนใส่คนเสื้อแดง เสียงตะโกน “ทหารใจร้าย” หายไปด้วยเสียงปืนM16 ดังเปรี้ยงปร้าง นางคะนึง ฉัตรเท ถูกยิงด้วย M 16 เข้าที่หน้าอกทะลุด้านหลัง สิ้นชีวิต ไปแล้ว เสียงนี้หายไปในสายลม ที่สะพานมัฆวาน วันที่ 10 เมษายน 53

คือลูกไม้ ที่หล่นไป ไม่ไกลต้น




ตามิได้ มีไว้ แค่มองชาย
มือมิได้ มีไว้ แค่ไกวเปล
เสียงมิได้ มีไว้ แค่กล่อมเห่
ใจมิได้ แค่ทุ่มเท รักนิรันดร์
แต่ตาเธอ มีไว้ มองโลกกว้าง
มือสองข้าง สู้ศึก ไม่นึกหวั่น
เสียงหนึ่งเสียง เธอเคียงข้าง คนสามัญ
ใจแกร่งนั้น เกินสตรี วีรชน
คือครอบครัว นักสู้ ผู้ยิ่งใหญ่
คือลูกไม้ ที่หล่นไป ไม่ไกลต้น
คือแบบอย่าง ย่างก้าว เราทุกคน
ร่วมดิ้นรน ค้นหา ประชาธิปไตย

วันจันทร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2553

พลกฤต ธเนศจินดารัตน์



คนรุ่นใหม่ ใสซื่อ ชื่อพลกฤต 

พลิกชีวิต ข้ามคืน ยืนแถวหน้า
เพราะกล้าก้าว เลือกทาง ข้างประชา 

จงฟันฝ่า ฝูงแร้งกา ในธานี
หนทางยาว อีกหลายก้าว จงอย่าท้อ 

ยาวไม่พอ สำหรับคน เปี่ยมล้นศักดิ์ศรี
ยิ่งทางยาก ยิ่งทางยาว ยิ่งก้าวดี 

บารมี จะเกิดก่อ ขออวยชัย


ปดทุกคำ



หยุดก่อน หยุดฆ่า ประชาชน
หยุดก่อน หยุดพ่น ก่นด่า
หยุดก่อน หยุดเสแสร้ง แกล้งมายา
หยุดก่อน หยุดฆ่า ประชาธิปไตย
ประชาชน จนจน คนต้อยต่ำ
ไม่มีคำ พูดหรูหรู ดูจริงใจ
ไม่มีคำ แก้ตัว มั่วมั่วไป
คิดอย่างไร พูดอย่างนั้น มั่นในคำ
หยุดก่อน ผู้ดี อย่าพูดปด
หยุดสบถ แถไถ ไถลถลำ
หยุดกลิ้งกลอก ออกข่าว ขาวเป็นดำ
พูดทั้งหมด ปดทุกคำ ริยำผู้ดี

แด่พรรคร่วม

บ้านเมืองไร้ขื่อแป ใครจะแก้ปัญหาได้

มีแต่ลุกเป็นไฟ แล้วเป็นใครที่ตรอมตรม

บ้านนี้ ณ วันนี้ มันสุดที่จะโสมม

อ้าปากพ่นอาจม ยั่วอารมณ์ทุกนาที

ฝ่ายหนึ่งนั้นทำได้ แต่อีกฝ่ายโทษมากมี

ยุให้ต่อยตบตี ไม่ต้องมีกติกา

ทำไรให้ทำเถิด โอกาสเปิดให้เข่นฆ่า

บทเรียนที่มีมา มันลืมว่าเป็นอย่างไร

สุดท้ายปฏิวัติ เด็กอ่อนหัดยังคิดได้

พรรคร่วมมึงรวมใจ ไล่ทรราษฎร์ชาติร่มเย็น

กลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้



ฆ่าคนคือฆาตกร กลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้
พวกมันก่อการร้าย ไหงกลับกลายก่อการดี
โป้ปดแลมดเท็จ รวมเบ็ดเสร็จคนอัปรีย์
สื่อสารมารทีวี ขมันขมีร่วมด้วยกัน
ใส่ร้ายและป้ายสี อย่างไม่มีจรรยาบรรณ
ยุใหญ่ให้ฆ่าฟัน ไทยทั้งนั้นต้องวายวาง
ต่อไปภายภาคหน้า วันเวลาจะสะสาง
ชั่วโฉดทุกทุกอย่าง ไม่มีทางหลีกพ้นกรรม
ดูอย่างผู้พันตึ๋ง เคยเป็นหนึ่งในผู้นำ
สุดท้ายถูกจองจำ ต้องรับกรรมตายในกรง

วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2553

ความจริงตลอดกาล


กว้างบอลใส่กำแพง ยิ่งกว้างแรงยิ่งแรงกลับ
พอมีคนขานรับ ทำเคื่องคับเฟื่องฟูลอย
ฝนตกขี้หมูไหล คนจัญไรเริ่มทะยอย
รวมตัวเป็นร้อยๆ เหมือนแร้งคอยกินอาจม
เกณฑ์คนมาร่วมด้วย มีตัวช่วยแล้วทำกร่าง
ลืมไปอยู่หนึ่งอย่าง ไม่อยู่ข้างของความจริง
ผลลัพธ์ไม่สำคัญ ถูกต้องนั้นสำคัญยิ่ง
โลกนี้มันต้องวิ่ง สู่ความจริงตลอดกาล

โดยอยู่เย็น พรหมมุนี
กวีไพร่ หัวใจแดง

ปลง


อะไรเกิดก็ให้เกิด ปลงเสียเถิดไทยทั้งผอง
เลือดไทยคงไหลนอง จะไปร้องเรียนกับใคร
เสาหลักมันปักเลน เป็นผู้เล่นผู้ยุใส่
ไม่ว่าจะเกิดอะไร แดงทั้งหลายไม่ทิ้งกัน
สองมือมีไว้ไหว้ พวกจัญไรอย่าได้หวั่น
มีอะไรต่อกรมัน นอกจากขวัญกำลังใจ
มันบอกก่อการร้าย ต้องทำลายอย่าหวั่นไหว
เมื่อเราดีไม่ได้ ก็จงร้ายให้มันลือ

โดย อยู่เย็น พรหมมุนี
กวีไพร่ หัวใจแดง

เชื้อชั่วไม่ยอมตาย

เชื้อชั่วไม่ยอมตาย มันยังหมายจะแพร่เชื้อ
ฉีกก้ดกินเลือดเนื้อ ทำเพียงเพื่อกลบอาจม
ความผิดที่ทำไว้ ด้วยจิตใจอันโสมม
คงหลุดจากโคลนตม เพราะช่วยถล่มคนเสื้อแดง
เล่ห์ร้ายฝ่ายอำมาตย์ ทรราษฏร์มันจัดแจง
กลายเป็นทุกหนแห่ง เร่งให้แดงเต็มแผ่นดิน

สี่นิ้วไปไหน

หนึ่งนิ้วที่ชี้แช่ง บวกกับแรงขู่อาฆาต
หนึ่งนิ้วที่กริ้วกราด แต่มันขาดไปถึ่งสี่
แช่งชักหนักหนักเเถิด และจงเกิดผลทันที
สี่นิ้วนั้นพอดี ม้นกลับชี้มาที่มึง

ก่อการดี

ผู้ก่อการดี ต้องทำหยั่งงี้
ฆ่าคนเหมือนผักปลา
ถึงแม้ว่ามีมือเปล่า
ทุบถองกระทืบเจ้า
ดิ้นเร่าเร่าคาบาทา
ลากศพไปทำลาย
คนสูญหายหลายชีวา
พูดไรล้วนมุสา
แล้วบอกข้า"ก่อการดี"

โดยอยู่เย็น พรหมมุนี
กวีไพร่หัวใจแดง

ตายสิบเกิดแสน


ตายสิบเกิดเป็นแสน มีทดแทนเต็มแผ่นดิน

หนุนเนื่องมิสูญสิ้น พลีชีวินพิทักษ์ธรรม

คมกล้าศาตราวุธ ฤๅจะหยุดคนคลาคล่ำ

ดินปืนกระสุนดำ ฤๅจะทำอะไรได้

เพื่อชาติศาสน์กษัตริย์ รักษารัฐขจัดภัย

ประชาธิปไตย จริงจริงให้กลับคืนมา

ขับไล่ทรราษฎร์ มารพิฆาตผู้เข่นฆ่า

มวลชนใช่ผักปลา ผู้บีฑาต้องบรรลัย

เราคือพลังใหญ่ยิ่ง พลังความจริงที่ยิ่งใหญ่

เหนือกว่าพลังใดใด จะฆ่าได้ไม่มีทาง

โดย อยู่เย็น พรหมมุนี
กวีไพร่ ใจแดง

วันเสาร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2553

รถถังกับตีนตบ


ต้องตอบประชาชน ว่าคุณขนอะไรมา

รถถังและอาก้า คุณขนมาเพื่ออะไร

ฮึกห้าวราวสัตว์ป่า เต็มอัตรากว่าครั้งไหน

ข้าศึกคุณคือใคร อาวุธอะไรที่เขามี

มองเห็นก็มองหาย เห็นหญิงชายเต็มวิถี

มือเปล่าเพียงเท่านี้ กับตีนตีสีแดงแดง

สู้เขาเราต้องสู้ ให้โลกรู้ทุกหนแห่ง

ตีนตบของคนแกร่ง หาญสู้แรงกระสุนปืน

โดยอยู่เย็น พรหมมุนี
กวีไพร่ ใจแดง

แด่ อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง


บางครั้งการต่อสู้ ก็ต้องรู้เสียสละ
อยากพบชัยชนะ ต้องชำระจิตใจตน
ขุนศึกต้องกล้าแกร่ง ทุ่มเทแรงมิย่อย่น
ลำบากยากลำบน กัดฟันทนจนได้ชัย
ผิดพลาดคือธรรมดา นำผิดมาคิดแก้ไข
ก้าวเถิดก้าวต่อไป และอภัยสิ่งแล้วมา

อยู่เย็น พรหมมุนี
กวีไพร่ ใจแดง

วันศุกร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2553

เรา รัก หมอ


แด่คุณหมอนักต่อสู้ หยัดยืนอยู่คู่มวลชน
กร้าวเกร่งเกินกว่าคน ปราบชั่วฉลคนอัปรีย์
ใหญ่"โต จิรกาล" โตเบิกบานเต็มฤดี
ใจแดงทุกดวงนี้ ขอยอมพลีเพื่อหมอเอย

อยูเย็น พรหมมุนี
กวีไพร่ ใจแดง

ใจแดง


ยืนหยัดสัจจธรรม ไม่นำพาใครว่าไพร่
พลพรรคจักเกรียงไกร จนเติบใหญ่เต็มแผ่นดิน
ป้องปากตะโกนสู้ ให้โลกรู้ทั่วธาณินทร์
เย็นยากมิยลยิน มิกลัวสิ้นแม้ศาตรา
เอ็งฆ่าข้าไม่ตาย เอ็งทำลายยิ่งกลายกล้า
ปากปืนทะมึนมา มันด้อยค่ากว่าใจแดง

อยู่เย็น พรหมมุณี

พ่อ

(ใครฆ่า...พ่อหนู เด็กคนนี้เพิ่งพบพ่อหลังจากพ่อออกจากบ้านมาร่วมชุมนุมที่สี่แยกคอกวัว และถูกยิงเสียชีวิต นั่งกอดรองเท้าของพ่อที่นำมาให้พ่อใส่)
พ่อพ่อพ่อ พ่อจ๋า มากินข้าว

เสียงลูกเร้า เร่งรุก ปลุกให้ตื่น
แต่ชีพพ่อ ลาลับ ไม่กลับคืน
ไม่ยอมตื่น ยืนนั่ง เหมือนอย่างเคย
พ่อพ่อพ่อ พ่อจ๋า ใครฆ่าพ่อ
ทำไมหนอ ทำไมกัน วานเฉลย
โทษของพ่อ แรงร้าย กระไรเลย

จึงลงเอย ด้วยฆ่ากัน จัญไรคน


อยู่เย็น พรหมมุนี

สงครามตามสงกรานต์


สิ้นสงคราม สิ้นสงกรานต์ ก็งานเข้า

เสื้อเหลืองเฝ้า มองดู อยู่ห่างห่าง

ทรราษฎร์ ทรชน คนหลงทาง

เริ่มแปลงร่าง ก่อกวน ล้วนวุ่นวาย

คงไม่มีใคร ยอมใคร หรือไงนี่

อยากให้มี ปฏิวัติ ชัดเป้าหมาย

ล้างคดี ต่างต่าง สะดวกดาย

แดงทั้งหลาย อย่าหลวมตัว มั่วกับมัน


อยู่เย็น พรหมมุนี

วันจันทร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2553

สื่อสารมารชน

ทีวีไทย ไม่ใช่สื่อ ไม่ซื่อใส

สื่อบรรลัย บรรเลงข่าว จนฉาวฉาน

หน้าสวยสวย เสียงใสใส ใจสามานย์

อุดมการ จรรยาบรรณ มันไม่มี

เราต้องสู้ แม้มี ศัตรูสื่อ

ความจริงคือ ความจริง เขาวิ่งหนี

เป็นสื่อสาร มารชน คนกาลี

แผ่นดินนี้ กลบหน้า ข้าไม่ลืม

โดย อยู่ร้อน

ปากแมว

ละเลงเลือด ละโลมดิน ถิ่นเมืองพุทธ

ใครจะหยุด ใครจะยั้ง สั่งใครได้

ต่างก็เครียด ต่างก็แค้น แน่นทรวงใน

โฆษกก็ เห่าต่อไป ไม่รอรี

มีแต่ยุ ยุยุ ไม่มีหยุด

จิตใจทรุด โทรมทราม ตามวิถี

เหมือนจะเสริม เติมเชื้อไฟ ให้ป่นปี้

ฤๅเท่านี้ ตายไม่พอ ทรราษฎร์เอย


โดย อยู่ร้อน

โทษประหาร


กดขี่ ข่มเหง มานานแล้ว
ไม่เคยมี วี่แวว จะโงหัว
แล้วจู่จู่ หนูไพร่ ใยไม่กลัว
สู้แมวชั่ว โฉดชัง อย่างลืมตาย

เอ็งเป็นหนู ต้องเป็นเหยื่อ อย่าเชื่อใคร
จะเป็นใหญ่ เทียบชั้น นั้นอย่าหมาย
เอ็งต้องทน ทนทน จนชีพวาย
ยังไม่สาย กลับใจ ให้แมวกิน

ข้าจะกิน เจ้าอย่าง ทะนุทะนอม
จะไม่ยอม ให้เจ้า ระคายลิ้น
ไหนไหนเจ้า เคยจำนน จนชาชิน
แล้วจะดิ้น เดือดดาล ไปทำไม

พวกเจ้ามี ความผิด คิดไม่ซื่อ
ทำดึงดื้อ ต่อต้าน คิดการใหญ่
ผิดมหันต์ โทษประหาร จารจำไว้
ผิดที่ไม่ ยอมตาย เหมือนเดิมเดิม

โดยอยู่ร้อน

ทรราษฎร์ฟันน้ำนม


โบราณว่า คบเด็ก แค่สร้างบ้าน
คบหัวล้าน สร้างเมือง มากเรื่องยุ่ง
ภาพสยอง ของสงคราม ลามทั่วกรุง
หัวล้านยุ่ง กับเด็กแย่ แค่สองคน

รัฐสยาม ต้องสยอง ขนพองชัน
เพราะใครกัน เป็นเด็กดื้อ นี่คือผล
คบเด็กชั่ว กับหัวล้าน พิการพิกล
ไทยจึงป่น เพราะ“ทรราษฏร์ ฟันน้ำนม”

โดย อยู่ร้อน

วัวลืมตีน


คนจนจน คนไพร่ จงไพร่ต่อ

อย่ามาก่อ อย่ามาเก่ง เอ็งเป็นใคร

แค่รากหญ้า รากดิน คนถิ่นไกล

มันก็ไพร่ พื้นเมือง อย่าเฟื่องฟู

ฉันคนเมือง มีระดับ คนนับถือ

ฉันมีมือ ไว้กรีด รีดเลือดปู

ฉันมียศ เป็นแผงแผง แรงอู่ฟู่

เอ๊ะแล้วกู ลูกใครหนอ อ๋อลูกดิน

โดยอยู่ร้อน

วันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2553

ฆ่ามัน ฆ่ามัน ฆ่ามัน


พวกเรา คนไทย ใจกล้าหาญ
เชี่ยวชาญ ชิงชัย ไม่ย่นย่อ
การศึก สงคราม ไม่มีท้อ
จนเกิดก่อ อาเขต ประเทศไทย

เสียงร้องเรียก เพรียกกัน ลั่นไปหมด
มัวไปขด หดหัว อยู่ที่ไหน
รวมพลัง ทั้งปืนผา ทั้งหน้าไม้
ได้เวลา
ฆ่าคน”ไทย” แล้ว”ไทย”เอย

โดย อยู่ร้อน