วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2554





















ตามิได้ มีไว้ แค่มองชาย
มือมิได้ มีไว้ แค่ไกวเปล
เสียงมิได้ มีไว้ แค่กล่อมเห่
ใจมิได้ แค่ทุ่มเท รักนิรันดร์

แต่ตาเธอ มีไว้ มองโลกกว้าง
มือสองข้าง สู้ศึก ไม่นึกหวั่น
เสียงหนึ่งเสียง เธอเคียงข้าง คนสามัญ
ใจแกร่งนั้น เกินสตรี วีรชน

คือครอบครัว นักสู้ ผู้ยิ่งใหญ่
คือลูกไม้ ที่หล่นไหว ไม่ไกลต้น
คือแบบอย่าง ย่างก้าว เราทุกคน
ร่วมดั้นด้น ค้นหา ประชาธิปไตย

วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ทหารไทยคุณเก่งมาก


คุณเก่งมาก เอาปืนสู้ กับมือเปล่า
คุณเก่งมาก มัดมือเขา แล้วยิงทิ้ง
คุณเก่งมาก ยิงได้ แม้ผู้หญิง
คุณเก่งมาก เก่งจริงๆ ทหารไทย
คุณเก่งมาก ยิงคนขอ ไว้ชีวิต
คุณเก่งมาก พระยังปลิด ชีวิตได้
คุณเก่งมาก เด็กสิบขวบ คุณฆ่าตาย
คุณเก่งมาก รุมทำร้าย คนคาตีน
คุณเก่งมาก พยาบาล ยังฆ่าเขา
คุณเก่งมาก สาวสาว คุณข่มขืน
คุณเก่งมาก ยิงนักข่าว ล้มทั้งยืน
คุณเก่งมาก คอยหยิบยื่น แต่ความตาย
คุณเก่งมาก คุณนายร้อย ห้อยกระบี่
คุณเก่งมาก หลักสูตรนี้ เรียนที่ไหน
คุณเก่งมาก คนอันธพาล เลวจานไร
คุณเก่งมาก มันยังไม่ เลวเท่าคุณ

วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

หมา


เมื่อหมอครือครือหมา 

แล้วประชาจะพึ่งใคร 

มรึงตายก็ตายไป 

กรูจะไม่รักษามรึง 

ภาษีของรากหญ้า 

จบออกมาดันทะลึ่ง 

เนรคุณคนขุนมรึง 

สักวันหนึ่งต้องใช้กรรม 

แค้นนี้มีวันจบ 

มึงต้องพบความชอกช้ำ 

สาสมความริยำ 

ที่มรึงทำจำจนตาย 

สีขาวสกปรก 

สีนรกจตุรบาย 

ฉ้อฉลไร้ยางอาย 

จงฉิบหายทั้งตระกูล

สิ้นคนชั่วสิ้นคนพาลสิ้นงานแดง

อวตารหาญสู้คนจากฟ้า 
ฆ่าเป็นฆ่าตายเป็นตายไม่หวาดหวั่น 
สองมือเปล่าจู่โจมเข้าโรมรัน 
กระสุนพันกระสุนหมื่นไม่ตื่นกลัว
สู้ได้หรือไม่ได้ไม่ยี่หระ
ชัยชนะอยู่หนใดไม่เห็นหัว 

แต่ใจแกร่งเกินกล้าบ้าเกินต้ว 
สิ้นคนชั่วสิ้นคนพาลสิ้นงานแดง

ร่วมกันปล้น

ชีวิตไพร่ไม่มีค่า มีราคาแค่แมงสาบ
ถูกปรามและถูกปราบ เป็นตราบาปมาทุกยุค
อยู่อย่างผู้พ่ายแพ้ ถูกรังแกมีแต่ทุกข์
ไม่เคยพบความสุข สิ้นเสรีไม่มีจบ
เรียกร้องความเป็นคน ก็โดนก่นก้องตลบ
เมื่อใดจะพานพบ สุขเสรีที่ปลายทาง
เมื่อเขาไม่ยอมให้ กีดกันไปทุกทุกอย่าง
ตีนมือทั้งสองข้าง ใช้ไขว่คว้าหาเอาเอง
สิ้นกลัวแล้วหัวใจ ไม่ยอมให้ใครข่มเหง
สิ้นยอมสิ้นยำเกรง เสริมใจเก่งกล้าเกินคน
รวมพลังคนต่ำต่ำ ที่ถูกทำอย่ายอมทน
มาเถิดร่วมกันปล้น ความเป็นคนของเราคืน

เต็มใจตาย

อาวุธมีแค่ลำไผ่ กับจิตใจที่จงรัก
แต่ข้าจะหาญหัก จะปกปักประชาธิปไตย
เพื่อชนชาวรากหญ้า ที่สง่าและเกรียงไกร
สู้ได้หรือมิได้ ช่างปะไรขอได้สู้
หล่อหลอมรวมดวงใจ ไม่มีใครเขารับรู้
เหยียดหยามหรือลบหลู่ ก็ยิ่งกรูสู้ไม่ถอย
ยิ่งขู่ข้ายิ่งกล้า ถึงแม้ว่ากำลังน้อย
ข้าศึกเป็นร้อยร้อย จะถดถอยไม่มีทาง
ตีนตบจะรบพุ่ง จะมั่นมุ่งสู่แสงสว่าง
ชัยชนะแค่เลือนราง เป็นแบบอย่างคนสู้คน 
เปรี้ยงเปรี้ยงเสียงคุ้นคุ้น คมกระสุนดังห่าฝน
แลเห็นรากหญ้าหล่น เต็มถนนประชาธิปไตย
ตายอย่างวีรชน ยังมีคนไว้อาลัย
ตายเพื่อใกล้หลักชัย เต็มใจตายทุกทุกคน

วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2553

ตายไม่เป็น

ในทางสู้ของคนกล้า
เพื่อเรียกหาประชาธิปไตย
ละเลงเลือดละหลั่งไหล
ไม่คลอนคลายทรนง
ใจแกร่งเกินกำหนด
ฆ่าก็มิหมดกดก็มิลง
ทางเดินที่เที่ยงตรง
ตั้งแต่ต้นจนบั้นปลาย
รากหญ้าทุกทุกผู้
จะต่อสู้ไม่ยอมตาย
เลือดแดงมิเหือดหาย
อย่าได้หมายมารังแก
น้ำน้อยก็จะสู้
จะยอมอยู่ไม่ยอมแพ้
จะดื้อด้านไม่ผันแปร
จะทรยศยมบาล
ให้ตายจะไม่ตาย
มิได้หมายคิดต่อต้าน
ขอเพียงไล่พวกมาร
จนเสร็จการค่อยคุยกัน

อยู่เย็น พรหมมุนี

แสงสว่างปลายอุโมงค์



แผ่นดินแยกแตกแล้วทุกทุกทิศ
ทุกชีวิตมุ่งหมายทำลายล้าง
ทมึนทมิฬมืดมิดปิดหนทาง 

แสงสว่างปลายอุโมงค์อยู่หนใด 
ภาพสยองของของสงครามความยุคเข็ญ 
กำลังเป็นประกายแผ่เกินแก้ไข 
ต่างความคิดผิดความเห็นเป็นบรรลัย
ฆ่ากันได้ไม่รีรอฟันต่อฟัน 

นักปราชญ์ราษฎร์บัณฑิตก็ผิดแผก 
กลับแบ่งแยกยั่วยุลุโมหันต์
เป็นไม้หลักปักเลนเข่นฆ่ากั
น 

ไทยทั้งนั้นฆ่าไทยจัญไรเมือ
จะหาเหตุเลศไหนมาบรรจบ
ให้พานพบพูดจากันรู้เรื่อง 

เลิกอาฆาตมาดร้ายคลายแค้นเคือง 
มาสร้างความรุ่งเรืองให้เมืองไทย 
แผ่นดินแยกแตกแล้วทุกทุกทิศ
หยุดวิกฤตก่อนยับเยินเกินแก
้ไข 

รวมเป็นพลังสมัครสมานประสานใจ 
สร้างอภ้ยสร้างสันตินิจนิรันดร์ 
อยู่เย็น พรหมมุนี

วันพุธที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2553

กวีไพร่



แค่คนดีหนึ่งคนแดงล้นรัก
จงประจักษ์ความจริงที่ยิ่งใหญ่
แล้วในหลวงของปวงประชาไทย
คุณความดีท่านยิ่งใหญ่แดงไม่ลืม
มีแต่รักรักรักและภ้กดี
เกินกว่าที่จำนรรจายิ่งกว่าปลื้ม
ความรักแดงยิ่งใหญ่โลกไม่ลืม
น้บแสนปลื้มนับล้านป้องพ่อของเรา


ห่ากระสุนหรือจะสู้ กระแสรู้คุณธรรม
มวลชนเมื่อชี้นำ จะแจ่มแจ้งในความจริง
ประชาชาติในวันนี้ เขากล้าที่จะท้วงติง
ทรราษฎร์ให้หยุดนิ่ง ก็ย่อมยิ่งจะวิ่งเดิน
หยุดเถิดควรจะหยุด ก่อนไทยทรุดชำรุดเกิน
ก่อนหมดแผ่นดินเดิน ก่อนเขาเชิญลงเวที


อวตารสีแดงทอแสงจ้า 
นคราบาทวิถีมีแต่แดง 
สู้กองทัพเถื่อนถ่อยคอยกลั่นแกล้ง 
ทั้งเสแสร้งปกปิดบิดเบือนคำ 
เอาไม้ไผ่ไปสู้กับอาก้า
ไม่รู้ว่าบ้าหรือดีนี่น่าขำ 
โพสต์ส่งความถามข่าวเช้ายันค่ำ 
ขอไม้อัดไปทำโล่ห์กันปืน 
ยิ้มมิได้ร่ำไห้ก็มิออก 
คนบ้านนอกบ้านนามาเป็นหมื่น 
ราชประสงค์ไม่มีที่จะยืน 
เพราะกล้ำกลืนที่ถูกกดจนหมดกลัว

บ้านเมืองไร้ขื่อแป  ใครจะแก้ปัญหาได้
มีแต่ลุกเป็นไฟ แล้วเป็นใครที่ตรอมตรม
บ้านนี้ ณ วันนี้ มันสุดที่จะโสมม
อ้าปากพ่นอาจม ยั่วอารมณ์ทุกนาที
ฝ่ายหนึ่งนั้นทำได้ แต่อีกฝ่ายโทษมากมี
ยุให้อีกฝ่ายตี ไม่ต้องมีกติกา

กลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้

ฆ่าคนคือฆาตกร กลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้
พวกมันก่อการร้าย ไหงกลับกลายก่อการดี 
โป้ปดแลมดเท็จ  รวมเบ็ดเสร็จคนอัปรีย์
สื่อสารมารทีวี ขมันขมีร่วมด้วยกัน
ใส่ร้ายและป้ายสี อย่างไม่มีจรรยาบรรณ
ยุใหญ่ให้ฆ่าฟัน ไทยทั้งนั้นต้องวายวาง
ต่อไปภายภาคหน้า วันเวลาจะสะสาง
ชั่วโฉดทุกทุกอย่าง ไม่มีทางหลีกพ้นกรรม
ดูอย่างผู้พันตึ๋ง เคยเป็นหนึ่งในผู้นำ
สุดท้ายต้องรับกรรม ถูกจองจำตายในกรง

รากหญ้ายอมตาย

ฆ่าได้ก็ให้ฆ่า จะเกิดมาให้ฆ่าใหม่
รากหญ้าคนต่ำใต้ ขืนอยู่ไปก็ไร้ค่า
ตายสิบเกิดเป็นล้าน จะเบิกบานเต็มพารา
คนไพร่ไม่นำพา แค่ถูกฆ่าเท่านั้นเอง
ศักดิ์ศรีไม่มีแล้ว คนนอกแถวใครจะเกรง
ค่ำเช้าเขาข่มเหง โก่งตะเบ็งเอ็งคนเลว
ชั่วช้าเกิดมาจน ค่าของคนต่ำติดเหว
ตะโกนก้องร้องเฮ้วเฮ้ว ว่าไอ้เลวเพียงเพราะจน
สิทธิเท่าเทียมกัน แต่สิทธินั้นไม่เห็นหน
แค่คืนความเป็นคน คืนตัวตนที่ฉันมี
เหยียบย่ำมานานวัน สุดสะบั้นแล้ววันนี้
เลิกแล้วเลิกถอยหนี พอกันทีหญ้ายอมตาย 

สวรรค์ อยู่ข้างเรา

สิ่งศักดิ์สิทธิ ใดใด ในโลกหล้า
ธ จงมา รักษา อย่าให้โศก

คนจริงที่ ดีแท้ แต่อับโชค
คนที่โลก ลืมรัก ลืมฝากใจ

เขานั้นหรือ คือผู้กล้า ในนาคร
อดตาหลับ ขับตานอน ตื่นก่อนไก่

อยู่หวาดหวาด ขาดทั้ง กำลังใจ
ไม่มีใคร รักเรา หรือไรกัน

เราไม่มี อำนาจ และอาวุธ
ที่จะหยุด ยั้งใคร ให้เหหัน
 

แต่ไม่ยอม ก้มห้ว กลัวโทษทัณฑ์
เพราะเชื่อมั่น ว่าสวรรค์ อยู่ข้างเรา

วันอังคารที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2553

คนึง ฉัตรเท


อนิจจา ลาลับ มิกลับแล้ว
สิ้นเสียงแว่ว เสียงแผ่ว แล้วเสียงหาย
ฆาตกร นอนสุข สนุกสบาย
ทิ้งหญิงชาย ผู้กล้า โศกาดูร
โอ้คนึง ฉัตรเท ทุ่มเทรัก
เพื่อปกปัก ความเป็นคน จนชีพสูญ
มิเห็นใคร ไหนมา เอื้ออากูร
มีใครปูน ยศให้ คงไม่มี




"ทหารใจร้าย" เสียงนี้ห... [HQ]

0:48
สะพานมัฆวานคือจุดเริ่มต้นที่ฝ่ายทหารได้ลั่นกระสุนใส่คนเสื้อแดง เสียงตะโกน “ทหารใจร้าย” หายไปด้วยเสียงปืนM16 ดังเปรี้ยงปร้าง นางคะนึง ฉัตรเท ถูกยิงด้วย M 16 เข้าที่หน้าอกทะลุด้านหลัง สิ้นชีวิต ไปแล้ว เสียงนี้หายไปในสายลม ที่สะพานมัฆวาน วันที่ 10 เมษายน 53

คือลูกไม้ ที่หล่นไป ไม่ไกลต้น




ตามิได้ มีไว้ แค่มองชาย
มือมิได้ มีไว้ แค่ไกวเปล
เสียงมิได้ มีไว้ แค่กล่อมเห่
ใจมิได้ แค่ทุ่มเท รักนิรันดร์
แต่ตาเธอ มีไว้ มองโลกกว้าง
มือสองข้าง สู้ศึก ไม่นึกหวั่น
เสียงหนึ่งเสียง เธอเคียงข้าง คนสามัญ
ใจแกร่งนั้น เกินสตรี วีรชน
คือครอบครัว นักสู้ ผู้ยิ่งใหญ่
คือลูกไม้ ที่หล่นไป ไม่ไกลต้น
คือแบบอย่าง ย่างก้าว เราทุกคน
ร่วมดิ้นรน ค้นหา ประชาธิปไตย

วันจันทร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2553

พลกฤต ธเนศจินดารัตน์



คนรุ่นใหม่ ใสซื่อ ชื่อพลกฤต 

พลิกชีวิต ข้ามคืน ยืนแถวหน้า
เพราะกล้าก้าว เลือกทาง ข้างประชา 

จงฟันฝ่า ฝูงแร้งกา ในธานี
หนทางยาว อีกหลายก้าว จงอย่าท้อ 

ยาวไม่พอ สำหรับคน เปี่ยมล้นศักดิ์ศรี
ยิ่งทางยาก ยิ่งทางยาว ยิ่งก้าวดี 

บารมี จะเกิดก่อ ขออวยชัย


ปดทุกคำ



หยุดก่อน หยุดฆ่า ประชาชน
หยุดก่อน หยุดพ่น ก่นด่า
หยุดก่อน หยุดเสแสร้ง แกล้งมายา
หยุดก่อน หยุดฆ่า ประชาธิปไตย
ประชาชน จนจน คนต้อยต่ำ
ไม่มีคำ พูดหรูหรู ดูจริงใจ
ไม่มีคำ แก้ตัว มั่วมั่วไป
คิดอย่างไร พูดอย่างนั้น มั่นในคำ
หยุดก่อน ผู้ดี อย่าพูดปด
หยุดสบถ แถไถ ไถลถลำ
หยุดกลิ้งกลอก ออกข่าว ขาวเป็นดำ
พูดทั้งหมด ปดทุกคำ ริยำผู้ดี

แด่พรรคร่วม

บ้านเมืองไร้ขื่อแป ใครจะแก้ปัญหาได้

มีแต่ลุกเป็นไฟ แล้วเป็นใครที่ตรอมตรม

บ้านนี้ ณ วันนี้ มันสุดที่จะโสมม

อ้าปากพ่นอาจม ยั่วอารมณ์ทุกนาที

ฝ่ายหนึ่งนั้นทำได้ แต่อีกฝ่ายโทษมากมี

ยุให้ต่อยตบตี ไม่ต้องมีกติกา

ทำไรให้ทำเถิด โอกาสเปิดให้เข่นฆ่า

บทเรียนที่มีมา มันลืมว่าเป็นอย่างไร

สุดท้ายปฏิวัติ เด็กอ่อนหัดยังคิดได้

พรรคร่วมมึงรวมใจ ไล่ทรราษฎร์ชาติร่มเย็น

กลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้



ฆ่าคนคือฆาตกร กลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้
พวกมันก่อการร้าย ไหงกลับกลายก่อการดี
โป้ปดแลมดเท็จ รวมเบ็ดเสร็จคนอัปรีย์
สื่อสารมารทีวี ขมันขมีร่วมด้วยกัน
ใส่ร้ายและป้ายสี อย่างไม่มีจรรยาบรรณ
ยุใหญ่ให้ฆ่าฟัน ไทยทั้งนั้นต้องวายวาง
ต่อไปภายภาคหน้า วันเวลาจะสะสาง
ชั่วโฉดทุกทุกอย่าง ไม่มีทางหลีกพ้นกรรม
ดูอย่างผู้พันตึ๋ง เคยเป็นหนึ่งในผู้นำ
สุดท้ายถูกจองจำ ต้องรับกรรมตายในกรง

วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2553

ความจริงตลอดกาล


กว้างบอลใส่กำแพง ยิ่งกว้างแรงยิ่งแรงกลับ
พอมีคนขานรับ ทำเคื่องคับเฟื่องฟูลอย
ฝนตกขี้หมูไหล คนจัญไรเริ่มทะยอย
รวมตัวเป็นร้อยๆ เหมือนแร้งคอยกินอาจม
เกณฑ์คนมาร่วมด้วย มีตัวช่วยแล้วทำกร่าง
ลืมไปอยู่หนึ่งอย่าง ไม่อยู่ข้างของความจริง
ผลลัพธ์ไม่สำคัญ ถูกต้องนั้นสำคัญยิ่ง
โลกนี้มันต้องวิ่ง สู่ความจริงตลอดกาล

โดยอยู่เย็น พรหมมุนี
กวีไพร่ หัวใจแดง

ปลง


อะไรเกิดก็ให้เกิด ปลงเสียเถิดไทยทั้งผอง
เลือดไทยคงไหลนอง จะไปร้องเรียนกับใคร
เสาหลักมันปักเลน เป็นผู้เล่นผู้ยุใส่
ไม่ว่าจะเกิดอะไร แดงทั้งหลายไม่ทิ้งกัน
สองมือมีไว้ไหว้ พวกจัญไรอย่าได้หวั่น
มีอะไรต่อกรมัน นอกจากขวัญกำลังใจ
มันบอกก่อการร้าย ต้องทำลายอย่าหวั่นไหว
เมื่อเราดีไม่ได้ ก็จงร้ายให้มันลือ

โดย อยู่เย็น พรหมมุนี
กวีไพร่ หัวใจแดง

เชื้อชั่วไม่ยอมตาย

เชื้อชั่วไม่ยอมตาย มันยังหมายจะแพร่เชื้อ
ฉีกก้ดกินเลือดเนื้อ ทำเพียงเพื่อกลบอาจม
ความผิดที่ทำไว้ ด้วยจิตใจอันโสมม
คงหลุดจากโคลนตม เพราะช่วยถล่มคนเสื้อแดง
เล่ห์ร้ายฝ่ายอำมาตย์ ทรราษฏร์มันจัดแจง
กลายเป็นทุกหนแห่ง เร่งให้แดงเต็มแผ่นดิน

สี่นิ้วไปไหน

หนึ่งนิ้วที่ชี้แช่ง บวกกับแรงขู่อาฆาต
หนึ่งนิ้วที่กริ้วกราด แต่มันขาดไปถึ่งสี่
แช่งชักหนักหนักเเถิด และจงเกิดผลทันที
สี่นิ้วนั้นพอดี ม้นกลับชี้มาที่มึง

ก่อการดี

ผู้ก่อการดี ต้องทำหยั่งงี้
ฆ่าคนเหมือนผักปลา
ถึงแม้ว่ามีมือเปล่า
ทุบถองกระทืบเจ้า
ดิ้นเร่าเร่าคาบาทา
ลากศพไปทำลาย
คนสูญหายหลายชีวา
พูดไรล้วนมุสา
แล้วบอกข้า"ก่อการดี"

โดยอยู่เย็น พรหมมุนี
กวีไพร่หัวใจแดง

ตายสิบเกิดแสน


ตายสิบเกิดเป็นแสน มีทดแทนเต็มแผ่นดิน

หนุนเนื่องมิสูญสิ้น พลีชีวินพิทักษ์ธรรม

คมกล้าศาตราวุธ ฤๅจะหยุดคนคลาคล่ำ

ดินปืนกระสุนดำ ฤๅจะทำอะไรได้

เพื่อชาติศาสน์กษัตริย์ รักษารัฐขจัดภัย

ประชาธิปไตย จริงจริงให้กลับคืนมา

ขับไล่ทรราษฎร์ มารพิฆาตผู้เข่นฆ่า

มวลชนใช่ผักปลา ผู้บีฑาต้องบรรลัย

เราคือพลังใหญ่ยิ่ง พลังความจริงที่ยิ่งใหญ่

เหนือกว่าพลังใดใด จะฆ่าได้ไม่มีทาง

โดย อยู่เย็น พรหมมุนี
กวีไพร่ ใจแดง

วันเสาร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2553

รถถังกับตีนตบ


ต้องตอบประชาชน ว่าคุณขนอะไรมา

รถถังและอาก้า คุณขนมาเพื่ออะไร

ฮึกห้าวราวสัตว์ป่า เต็มอัตรากว่าครั้งไหน

ข้าศึกคุณคือใคร อาวุธอะไรที่เขามี

มองเห็นก็มองหาย เห็นหญิงชายเต็มวิถี

มือเปล่าเพียงเท่านี้ กับตีนตีสีแดงแดง

สู้เขาเราต้องสู้ ให้โลกรู้ทุกหนแห่ง

ตีนตบของคนแกร่ง หาญสู้แรงกระสุนปืน

โดยอยู่เย็น พรหมมุนี
กวีไพร่ ใจแดง

แด่ อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง


บางครั้งการต่อสู้ ก็ต้องรู้เสียสละ
อยากพบชัยชนะ ต้องชำระจิตใจตน
ขุนศึกต้องกล้าแกร่ง ทุ่มเทแรงมิย่อย่น
ลำบากยากลำบน กัดฟันทนจนได้ชัย
ผิดพลาดคือธรรมดา นำผิดมาคิดแก้ไข
ก้าวเถิดก้าวต่อไป และอภัยสิ่งแล้วมา

อยู่เย็น พรหมมุนี
กวีไพร่ ใจแดง

วันศุกร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2553

เรา รัก หมอ


แด่คุณหมอนักต่อสู้ หยัดยืนอยู่คู่มวลชน
กร้าวเกร่งเกินกว่าคน ปราบชั่วฉลคนอัปรีย์
ใหญ่"โต จิรกาล" โตเบิกบานเต็มฤดี
ใจแดงทุกดวงนี้ ขอยอมพลีเพื่อหมอเอย

อยูเย็น พรหมมุนี
กวีไพร่ ใจแดง

ใจแดง


ยืนหยัดสัจจธรรม ไม่นำพาใครว่าไพร่
พลพรรคจักเกรียงไกร จนเติบใหญ่เต็มแผ่นดิน
ป้องปากตะโกนสู้ ให้โลกรู้ทั่วธาณินทร์
เย็นยากมิยลยิน มิกลัวสิ้นแม้ศาตรา
เอ็งฆ่าข้าไม่ตาย เอ็งทำลายยิ่งกลายกล้า
ปากปืนทะมึนมา มันด้อยค่ากว่าใจแดง

อยู่เย็น พรหมมุณี

พ่อ

(ใครฆ่า...พ่อหนู เด็กคนนี้เพิ่งพบพ่อหลังจากพ่อออกจากบ้านมาร่วมชุมนุมที่สี่แยกคอกวัว และถูกยิงเสียชีวิต นั่งกอดรองเท้าของพ่อที่นำมาให้พ่อใส่)
พ่อพ่อพ่อ พ่อจ๋า มากินข้าว

เสียงลูกเร้า เร่งรุก ปลุกให้ตื่น
แต่ชีพพ่อ ลาลับ ไม่กลับคืน
ไม่ยอมตื่น ยืนนั่ง เหมือนอย่างเคย
พ่อพ่อพ่อ พ่อจ๋า ใครฆ่าพ่อ
ทำไมหนอ ทำไมกัน วานเฉลย
โทษของพ่อ แรงร้าย กระไรเลย

จึงลงเอย ด้วยฆ่ากัน จัญไรคน


อยู่เย็น พรหมมุนี

สงครามตามสงกรานต์


สิ้นสงคราม สิ้นสงกรานต์ ก็งานเข้า

เสื้อเหลืองเฝ้า มองดู อยู่ห่างห่าง

ทรราษฎร์ ทรชน คนหลงทาง

เริ่มแปลงร่าง ก่อกวน ล้วนวุ่นวาย

คงไม่มีใคร ยอมใคร หรือไงนี่

อยากให้มี ปฏิวัติ ชัดเป้าหมาย

ล้างคดี ต่างต่าง สะดวกดาย

แดงทั้งหลาย อย่าหลวมตัว มั่วกับมัน


อยู่เย็น พรหมมุนี