วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
ทหารไทยคุณเก่งมาก
คุณเก่งมาก เอาปืนสู้ กับมือเปล่า
คุณเก่งมาก มัดมือเขา แล้วยิงทิ้ง
คุณเก่งมาก ยิงได้ แม้ผู้หญิง
คุณเก่งมาก เก่งจริงๆ ทหารไทย
คุณเก่งมาก ยิงคนขอ ไว้ชีวิต
คุณเก่งมาก พระยังปลิด ชีวิตได้
คุณเก่งมาก เด็กสิบขวบ คุณฆ่าตาย
คุณเก่งมาก รุมทำร้าย คนคาตีน
คุณเก่งมาก พยาบาล ยังฆ่าเขา
คุณเก่งมาก สาวสาว คุณข่มขืน
คุณเก่งมาก ยิงนักข่าว ล้มทั้งยืน
คุณเก่งมาก คอยหยิบยื่น แต่ความตาย
คุณเก่งมาก คุณนายร้อย ห้อยกระบี่
คุณเก่งมาก หลักสูตรนี้ เรียนที่ไหน
คุณเก่งมาก คนอันธพาล เลวจานไร
คุณเก่งมาก มันยังไม่ เลวเท่าคุณ
วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
หมา
เมื่อหมอครือครือหมา
แล้วประชาจะพึ่งใคร
มรึงตายก็ตายไป
กรูจะไม่รักษามรึง
ภาษีของรากหญ้า
จบออกมาดันทะลึ่ง
เนรคุณคนขุนมรึง
สักวันหนึ่งต้องใช้กรรม
แค้นนี้มีวันจบ
มึงต้องพบความชอกช้ำ
สาสมความริยำ
ที่มรึงทำจำจนตาย
สีขาวสกปรก
สีนรกจตุรบาย
ฉ้อฉลไร้ยางอาย
จงฉิบหายทั้งตระกูล
สิ้นคนชั่วสิ้นคนพาลสิ้นงานแดง
ฆ่าเป็นฆ่าตายเป็นตายไม่หวา
สองมือเปล่าจู่โจมเข้าโรมรั
กระสุนพันกระสุนหมื่นไม่ตื่
สู้ได้หรือไม่ได้ไม่ยี่หระ
ชัยชนะอยู่หนใดไม่เห็นหัว
แต่ใจแกร่งเกินกล้าบ้าเกินต
สิ้นคนชั่วสิ้นคนพาลสิ้นงาน
ร่วมกันปล้น
ถูกปรามและถูกปราบ เป็นตราบาปมาทุกยุค
อยู่อย่างผู้พ่ายแพ้ ถูกรังแกมีแต่ทุกข์
ไม่เคยพบความสุข สิ้นเสรีไม่มีจบ
เรียกร้องความเป็นคน ก็โดนก่นก้องตลบ
เมื่อใดจะพานพบ สุขเสรีที่ปลายทาง
เมื่อเขาไม่ยอมให้ กีดกันไปทุกทุกอย่าง
ตีนมือทั้งสองข้าง ใช้ไขว่คว้าหาเอาเอง
สิ้นกลัวแล้วหัวใจ ไม่ยอมให้ใครข่มเหง
สิ้นยอมสิ้นยำเกรง เสริมใจเก่งกล้าเกินคน
รวมพลังคนต่ำต่ำ ที่ถูกทำอย่ายอมทน
มาเถิดร่วมกันปล้น ความเป็นคนของเราคืน
เต็มใจตาย
แต่ข้าจะหาญหัก จะปกปักประชาธิปไตย
เพื่อชนชาวรากหญ้า ที่สง่าและเกรียงไกร
สู้ได้หรือมิได้ ช่างปะไรขอได้สู้
หล่อหลอมรวมดวงใจ ไม่มีใครเขารับรู้
เหยียดหยามหรือลบหลู่ ก็ยิ่งกรูสู้ไม่ถอย
ยิ่งขู่ข้ายิ่งกล้า ถึงแม้ว่ากำลังน้อย
ข้าศึกเป็นร้อยร้อย จะถดถอยไม่มีทาง
ตีนตบจะรบพุ่ง จะมั่นมุ่งสู่แสงสว่าง
ชัยชนะแค่เลือนราง เป็นแบบอย่างคนสู้คน เปรี้ยงเปรี้ยงเสียงคุ้นคุ้
แลเห็นรากหญ้าหล่น เต็มถนนประชาธิปไตย
ตายอย่างวีรชน ยังมีคนไว้อาลัย
ตายเพื่อใกล้หลักชัย เต็มใจตายทุกทุกคน
วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2553
ตายไม่เป็น
เพื่อเรียกหาประชาธิปไตย
ละเลงเลือดละหลั่งไหล
ไม่คลอนคลายทรนง
ใจแกร่งเกินกำหนด
ฆ่าก็มิหมดกดก็มิลง
ทางเดินที่เที่ยงตรง
ตั้งแต่ต้นจนบั้นปลาย
รากหญ้าทุกทุกผู้
จะต่อสู้ไม่ยอมตาย
เลือดแดงมิเหือดหาย
อย่าได้หมายมารังแก
น้ำน้อยก็จะสู้
จะยอมอยู่ไม่ยอมแพ้
จะดื้อด้านไม่ผันแปร
จะทรยศยมบาล
ให้ตายจะไม่ตาย
มิได้หมายคิดต่อต้าน
ขอเพียงไล่พวกมาร
จนเสร็จการค่อยคุยกัน
อยู่เย็น พรหมมุนี
แสงสว่างปลายอุโมงค์
แผ่นดินแยกแตกแล้วทุกทุกทิศ
ทุกชีวิตมุ่งหมายทำลายล้าง
ทมึนทมิฬมืดมิดปิดหนทาง
แสงสว่างปลายอุโมงค์อยู่หนใ
ภาพสยองของของสงครามความยุค
กำลังเป็นประกายแผ่เกินแก้ไ
ต่างความคิดผิดความเห็นเป็น
ฆ่ากันได้ไม่รีรอฟันต่อฟัน
นักปราชญ์ราษฎร์บัณฑิตก็ผิด
กลับแบ่งแยกยั่วยุลุโมหันต์
เป็นไม้หลักปักเลนเข่นฆ่ากั
ไทยทั้งนั้นฆ่าไทยจัญไรเมือ
จะหาเหตุเลศไหนมาบรรจบ
ให้พานพบพูดจากันรู้เรื่อง
เลิกอาฆาตมาดร้ายคลายแค้นเค
มาสร้างความรุ่งเรืองให้เมื
แผ่นดินแยกแตกแล้วทุกทุกทิศ
หยุดวิกฤตก่อนยับเยินเกินแก
รวมเป็นพลังสมัครสมานประสาน
สร้างอภ้ยสร้างสันตินิจนิรั
อยู่เย็น พรหมมุนี
วันพุธที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2553
กวีไพร่
จงประจักษ์ความจริงที่ยิ่งใหญ่
แล้วในหลวงของปวงประชาไทย
คุณความดีท่านยิ่งใหญ่แดงไม่ลืม
มีแต่รักรักรักและภ้กดี
เกินกว่าที่จำนรรจายิ่งกว่าปลื้ม
ความรักแดงยิ่งใหญ่โลกไม่ลืม
น้บแสนปลื้มนับล้านป้องพ่อของเรา
มวลชนเมื่อชี้นำ จะแจ่มแจ้งในความจริง
ประชาชาติในวันนี้ เขากล้าที่จะท้วงติง
ทรราษฎร์ให้หยุดนิ่ง ก็ย่อมยิ่งจะวิ่งเดิน
หยุดเถิดควรจะหยุด ก่อนไทยทรุดชำรุดเกิน
ก่อนหมดแผ่นดินเดิน ก่อนเขาเชิญลงเวที
กลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้
รากหญ้ายอมตาย
สวรรค์ อยู่ข้างเรา
ธ จงมา รักษา อย่าให้โศก
คนจริงที่ ดีแท้ แต่อับโชค
คนที่โลก ลืมรัก ลืมฝากใจ
เขานั้นหรือ คือผู้กล้า ในนาคร
อดตาหลับ ขับตานอน ตื่นก่อนไก่
อยู่หวาดหวาด ขาดทั้ง กำลังใจ
ไม่มีใคร รักเรา หรือไรกัน
เราไม่มี อำนาจ และอาวุธ
ที่จะหยุด ยั้งใคร ให้เหหัน
แต่ไม่ยอม ก้มห้ว กลัวโทษทัณฑ์
เพราะเชื่อมั่น ว่าสวรรค์ อยู่ข้างเรา
วันอังคารที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2553
คนึง ฉัตรเท
อนิจจา ลาลับ มิกลับแล้ว
สิ้นเสียงแว่ว เสียงแผ่ว แล้วเสียงหาย
ฆาตกร นอนสุข สนุกสบาย
ทิ้งหญิงชาย ผู้กล้า โศกาดูร
โอ้คนึง ฉัตรเท ทุ่มเทรัก
เพื่อปกปัก ความเป็นคน จนชีพสูญ
มิเห็นใคร ไหนมา เอื้ออากูร
มีใครปูน ยศให้ คงไม่มี
คือลูกไม้ ที่หล่นไป ไม่ไกลต้น
วันจันทร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2553
พลกฤต ธเนศจินดารัตน์
คนรุ่นใหม่ ใสซื่อ ชื่อพลกฤต
พลิกชีวิต ข้ามคืน ยืนแถวหน้า
เพราะกล้าก้าว เลือกทาง ข้างประชา
จงฟันฝ่า ฝูงแร้งกา ในธานี
หนทางยาว อีกหลายก้าว จงอย่าท้อ
ยาวไม่พอ สำหรับคน เปี่ยมล้นศักดิ์ศรี
ยิ่งทางยาก ยิ่งทางยาว ยิ่งก้าวดี
บารมี จะเกิดก่อ ขออวยชัย
ปดทุกคำ
แด่พรรคร่วม
บ้านเมืองไร้ขื่อแป ใครจะแก้ปัญหาได้
มีแต่ลุกเป็นไฟ แล้วเป็นใครที่ตรอมตรม
บ้านนี้ ณ วันนี้ มันสุดที่จะโสมม
อ้าปากพ่นอาจม ยั่วอารมณ์ทุกนาที
ฝ่ายหนึ่งนั้นทำได้ แต่อีกฝ่ายโทษมากมี
ยุให้ต่อยตบตี ไม่ต้องมีกติกา
ทำไรให้ทำเถิด โอกาสเปิดให้เข่นฆ่า
บทเรียนที่มีมา มันลืมว่าเป็นอย่างไร
สุดท้ายปฏิวัติ เด็กอ่อนหัดยังคิดได้
พรรคร่วมมึงรวมใจ ไล่ทรราษฎร์ชาติร่มเย็น
กลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้
ฆ่าคนคือฆาตกร กลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้
พวกมันก่อการร้าย ไหงกลับกลายก่อการดี
โป้ปดแลมดเท็จ รวมเบ็ดเสร็จคนอัปรีย์
สื่อสารมารทีวี ขมันขมีร่วมด้วยกัน
ใส่ร้ายและป้ายสี อย่างไม่มีจรรยาบรรณ
ยุใหญ่ให้ฆ่าฟัน ไทยทั้งนั้นต้องวายวาง
ต่อไปภายภาคหน้า วันเวลาจะสะสาง
ชั่วโฉดทุกทุกอย่าง ไม่มีทางหลีกพ้นกรรม
ดูอย่างผู้พันตึ๋ง เคยเป็นหนึ่งในผู้นำ
สุดท้ายถูกจองจำ ต้องรับกรรมตายในกรง
วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2553
ความจริงตลอดกาล
กว้างบอลใส่กำแพง ยิ่งกว้างแรงยิ่งแรงกลับ
ปลง
อะไรเกิดก็ให้เกิด ปลงเสียเถิดไทยทั้งผอง
เลือดไทยคงไหลนอง จะไปร้องเรียนกับใคร
เสาหลักมันปักเลน เป็นผู้เล่นผู้ยุใส่
ไม่ว่าจะเกิดอะไร แดงทั้งหลายไม่ทิ้งกัน
สองมือมีไว้ไหว้ พวกจัญไรอย่าได้หวั่น
มีอะไรต่อกรมัน นอกจากขวัญกำลังใจ
มันบอกก่อการร้าย ต้องทำลายอย่าหวั่นไหว
เมื่อเราดีไม่ได้ ก็จงร้ายให้มันลือ
โดย อยู่เย็น พรหมมุนี
กวีไพร่ หัวใจแดง
เชื้อชั่วไม่ยอมตาย
เชื้อชั่วไม่ยอมตาย มันยังหมายจะแพร่เชื้อ
ฉีกก้ดกินเลือดเนื้อ ทำเพียงเพื่อกลบอาจม
ความผิดที่ทำไว้ ด้วยจิตใจอันโสมม
คงหลุดจากโคลนตม เพราะช่วยถล่มคนเสื้อแดง
เล่ห์ร้ายฝ่ายอำมาตย์ ทรราษฏร์มันจัดแจง
กลายเป็นทุกหนแห่ง เร่งให้แดงเต็มแผ่นดิน
สี่นิ้วไปไหน
หนึ่งนิ้วที่กริ้วกราด แต่มันขาดไปถึ่งสี่
แช่งชักหนักหนักเเถิด และจงเกิดผลทันที
สี่นิ้วนั้นพอดี ม้นกลับชี้มาที่มึง
ก่อการดี
ตายสิบเกิดแสน
ตายสิบเกิดเป็นแสน มีทดแทนเต็มแผ่นดิน
หนุนเนื่องมิสูญสิ้น พลีชีวินพิทักษ์ธรรม
คมกล้าศาตราวุธ ฤๅจะหยุดคนคลาคล่ำ
ดินปืนกระสุนดำ ฤๅจะทำอะไรได้
เพื่อชาติศาสน์กษัตริย์ รักษารัฐขจัดภัย
ประชาธิปไตย จริงจริงให้กลับคืนมา
ขับไล่ทรราษฎร์ มารพิฆาตผู้เข่นฆ่า
มวลชนใช่ผักปลา ผู้บีฑาต้องบรรลัย
เราคือพลังใหญ่ยิ่ง พลังความจริงที่ยิ่งใหญ่
เหนือกว่าพลังใดใด จะฆ่าได้ไม่มีทาง
โดย อยู่เย็น พรหมมุนี
กวีไพร่ ใจแดง
วันเสาร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2553
รถถังกับตีนตบ
ต้องตอบประชาชน ว่าคุณขนอะไรมา
รถถังและอาก้า คุณขนมาเพื่ออะไร
ฮึกห้าวราวสัตว์ป่า เต็มอัตรากว่าครั้งไหน
ข้าศึกคุณคือใคร อาวุธอะไรที่เขามี
มองเห็นก็มองหาย เห็นหญิงชายเต็มวิถี
มือเปล่าเพียงเท่านี้ กับตีนตีสีแดงแดง
สู้เขาเราต้องสู้ ให้โลกรู้ทุกหนแห่ง
ตีนตบของคนแกร่ง หาญสู้แรงกระสุนปืน
โดยอยู่เย็น พรหมมุนี
กวีไพร่ ใจแดง